ความคืบหน้าเรื่องการสมัครงานอาจารย์ + การสอบ CFA

หายหน้าหายตาไปพักใหญ่เลยครับ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นช่วงหนึ่งที่สะท้อนได้ชัดว่าชีวิตคนเรามีเรื่องที่ไม่แน่ไม่นอนสูงมาก
เวลาที่เราวางแผนอะไรไว้ดิบดี ก็มักจะมีเรื่องทำให้เราไม่สามารถทำตามแผนได้ทุกทีไป

หลังจากที่ผมกลับจากเซี่ยงไฮ้และได้เขียนเล่าเรื่องราวไปแล้ว 2 ตอน (ตั้งใจจะเขียนต่อให้ครบ 4 ตอน)
ผมมีภารกิจสำคัญก็คือการสอบ CFA ในวันที่ 6 ธันวาคม 2552 นี้
ซึ่งตอนแรกตารางเวลาก็ค่อนข้างจะแน่นขนาดที่ว่า น่าจะเตรียมตัวสอบได้ไม่ทันอยู่แล้ว
ยังมีเหตุการณ์ต่างๆ สอดแทรกเข้ามาสร้างสีสันให้ชีวิตผมเยอะมาก เริ่มจาก
.

  1. พ่อผมป่วยหนัก ด้วยอาการน้ำท่วมปอด ซึ่งหมอบอกว่ารากของสาเหตุอยู่ที่ผนังหัวใจหนา
    ผมกลับไปดูพ่อที่สารคาม และในวันรุ่งขึ้นต้องรีบพาพ่อย้ายมาที่ รพ.พระราม 9 เพราะอาการหนักขึ้นมาก
    หลังจากนอนโรงพยาบาลได้ 6 วัน พ่อก็ออกจากโรงพยาบาลได้ กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
    (แข็งแรงจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่ว่าพ่อคิดถึงบ้านมากๆ จะออกให้ได้ เลยต้องทำตัวแข็งแรงไว้ก่อน)
    ความจริงผมชินแล้วกับการไปนอนเฝ้าพ่อ แต่การจะเฝ้าไปด้วยแล้วอ่าน CFA ไปด้วยนี่
    เป็นอะไรที่ลำบากมากๆ รู้สึกตัวเองไม่ค่อย productive เลยครับ คล้ายๆ เปิดหนังสือให้ผ่านๆ ไป

    .
  2. งานตำแหน่งอาจารย์ที่ ม.เกษตร ศรีราชา ที่ผมสมัครไป ทางนู้นเค้าเรียกสัมภาษณ์
    เมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 52) ซึ่งก็เป็นเหตุให้ผมต้องแบ่งเวลามาเตรียมตัวเรื่องนี้ด้วย
    เพราะงานอาจารย์ที่นี่ เป็นงานที่สำคัญมากๆ สำหรับผม เป็นก้าวแรกในเส้นทางอาชีพของผม
    การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี ในที่สุด … เดี๋ยวจะเล่าต่อข้างล่างครับ ว่าไปสัมภาษณ์มาเป็นยังไงบ้าง

    .
  3. หัวใจเจ้ากรรม ดันไปสะดุดสิ่งสวยงามระหว่างทางเล็กน้อย ทำให้จิตใจว้าวุ่นไม่เป็นอันทำอะไร
    อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ก่อนพ่อป่วย จนถึงวันนี้ก็เริ่มจะดีขึ้นแล้วครับ
    เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่า สิ่งที่สวยงามช่วยเพิ่มหลังให้กับชีวิตได้แค่ไหน ในยามที่เราท้อ และว้าเหว่
    แต่เมื่อความสวยงามสิ้นสุดลง (ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วครับ 55)  ก็ได้เห็นสัจธรรมอีกครั้ง
    ว่าเอาใจไปยึดเมื่อไหร่ ก็รอได้เลยว่าจะต้องมีทุกข์ตามมาแน่ๆ

    .

เอาล่ะครับ ทั้งหมดนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงที่ผมหายตัวไป ไม่ได้มาอัพเดทบล๊อค
ต่อไปผมจะเล่าเรื่องสำคัญคือ เรื่องการไปสัมภาษณ์งานตำแหน่งอาจารย์ที่ มก. ศรีราชา
และความคืบหน้าในการเตรียมตัวสอบ CFA ครับ
.

สัมภาษณ์งานตำแหน่งอาจารย์ที่ ม.เกษตร ศรีราชา

การสมัครงานตำแหน่งอาจารย์ด้านการเงินที่ มก. ศรีราชา สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 52 ครับ
หลังครบกำหนดรับสมัครไม่กี่วัน ผมก็ได้รับโทรศัพท์เรียกให้มารับการสัมภาษณ์ในวันที่ 30 พ.ย.
หรือก็คือเมื่อวานนี้เอง พร้อมๆ กับได้รู้ว่ารอบนี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 3 คน (รวมผมด้วย)
โดย 1 ใน 3 คนจะได้รับคัดเลือกเข้าเป็นอาจารย์ที่ คณะวิทยาการจัดการ ม.เกษตร วิทยาเขตศรีราชา ครับ
พอเห็นจำนวนผู้สมัครแล้วก็ตื่นเต้นเล็กน้อยครับ เพราะโอกาสที่จะได้รับคัดเลือกเข้าไป มีแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
อย่างที่บอกว่า งานนี้สำคัญกับผมมาก เพราะผมเลือกที่จะไม่สมัครเรียน ป.เอก ต่างประเทศ
เพราะอยากจะทำงานนี้ ถ้าพลาดขึ้นมา ผมคงจะเสียใจ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ พ่อแม่ ผมจะเสียใจมากกว่า

ผู้สมัครอีก 2 คน ซึ่งต้องถือว่าเป็นคู่แข่งผม (แต่จริงๆ ไม่อยากเรียกว่าคู่แข่งเลย เพราะทุกคนก็ตามหาฝันของตัวเอง)
คนหนึ่งนั้นผมรู้จักดีครับ เพราะเป็นรุ่นน้องที่เรียนที่นิด้าด้วยกัน และก็ทำงานเป็น TA ด้วยกันมา
กลายเป็นว่ารอบนี้เราต้องมาแข่งกันเอง ส่วนพี่อีกคนนั้น เพิ่งจะได้มารู้จักทีหลัง เมื่อวันสัมภาษณ์นี่ล่ะครับ
ผมต้องยอมรับเลยว่า ถ้าเทียบกับผู้สมัครอีก 2 คน ผมเองก็ไม่ได้มีความแตกต่าง หรือโดดเด่นไปมากกว่าใคร
และผมก็เชื่อว่า ทั้ง 3 คน เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งนี้เท่าๆ กัน ทั้งนี้คงต้องขึ้นกับดุลยพินิจ
ของคณะกรรมการที่ทำการคัดเลือกพวกเราครับ ว่าท่ามกลางคนที่เหมาะสม เค้าจะเลือกใคร ที่เหมาะสมที่สุด

เมื่อวานนี้ เป็นวันที่ผมได้ไปที่ ม.เกษตร ศรีราชา ครั้งแรกครับ
การไปเยือน มก. ศรีราชา ครั้งนี้ ยิ่งทำให้ผมอยากได้งานนี้มากเข้าไปใหญ่
เรียกได้ว่า ผมตกหลุมรักสถานที่นี้ เข้าอย่างจังเลยครับ เริ่มตั้งแต่ ทัศนียภาพของมหาลัย
อาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งนักศึกษาที่นี่ด้วย

บรรยากาศของมหาลัย เต็มไปด้วยธรรมชาติมากครับ อากาศก็ดี ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ แค่นี้เอง
ที่สำคัญคือ ผมสังเกตว่านักศึกษาที่นี่ เรียบร้อยมากๆ ทั้งเรื่องการแต่งตัว เรื่องสัมมาคารวะ
ผมต้องแปลกใจที่เมื่อผมเดินผ่านเค้า เค้ายกมือไหว้ สวัสดีผม นึกว่าผมเป็นอาจารย์ 555 (ทำเอาเขินเลยครับ)
เวลานั่งอยู่ พอนักศึกษาเค้าจะเดินผ่าน ก็ค้อมตัว เดินย่อผ่านเราไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดว่า หาได้ยากแล้ว

หลังจากประทับใจอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาสัมภาษณ์แล้วครับ
การสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ผมพยายามที่จะไม่เตรียมคำถาม-คำตอบ อะไรเลย เพราะคิดว่า
อยากจะตอบออกไปจากใจจริงๆ ไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่า เราท่องสคริปมาตอบ
ซึ่งโดยรวมการสัมภาษณ์ค่อนข้างสนุกครับ ผมถูกสัมภาษณ์ประมาณ 20 นาที
คำถามหลายอย่าง เป็นคำถามเรื่องแนวคิด เรื่องทัศนคติ วิสัยทัศน์ ซึ่งผมก็ได้ express ตัวเองไปเต็มที่
อาจจะเรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดีนัก แต่ก็คิดว่าสื่อสารความเป็นตัวตนออกไปได้มาก

ข้อสังเกตคือ คณะกรรมการที่สัมภาษณ์ ไม่ค่อยถามถึงจุดเด่นของเรา
แต่มักจะโจมตีจุดอ่อน โดยเฉพาะผมโดนถามเรื่อง ประสบการณ์ทำงานบ่อยมากๆ
เนื่องจาก เรื่องนี้เป็นจุดที่ผมด้อย เพราะผมไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน แบบเป็นเรื่องเป็นราว
จะมีก็เป็นงานธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน ก็กระอักกระอ่วนพอสมควรครับ
แต่อะไรที่มันไม่มี เราจะทำให้มีก็คงไม่ได้ ผมก็ได้แต่หวังว่า คุณสมบัติด้านอื่นๆ จะพอชดเชยได้บ้าง

หลังจากจบสัมภาษณ์ ผมประเมินตัวเองว่า อาจจะไม่ได้งานนี้ครับ
เพราะคิดว่า ผู้สมัครอีกท่าน คือพี่ที่ผมเพิ่งได้รู้จักน่าจะมีความพร้อมมากกว่า
พี่เค้าเป็นรุ่นพี่ผมประมาณ 4-5 ปี จบ MBA ที่นิด้าเหมือนกัน และปัจจุบันกำลังจะจบโทใบที่สอง
ซึ่งเป็นโทด้าน Finance เชิงลึก ที่เน้นเรื่องการวิจัยจริงๆ รวมทั้งพี่เค้าก็มีประสบการณ์สอนหนังสือมาบ้างแล้ว
ประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมก็มีอย่างล้นหลามครับ ที่สำคัญก็คือ พี่เค้าเป็นศิษย์เก่าที่ มก. ศรีราชาด้วย
ดูในภาพรวมแล้ว ถ้าผมเป็นคณะกรรมการ ผมก็คงเลือกพี่คนนี้

ถ้าผลออกมาเป็นแบบที่ผมคิด ก็คงจะเสียใจนิดหน่อยครับ แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
ผมถามกับเจ้าหน้าที่มา เค้าก็บอกว่า อาจจะมีการรับเพิ่มอีก เพราะความต้องการอาจารย์จริงๆ แล้วยังมีมากกว่านี้
ถ้าเป็นอย่างงั้น ผมก็คงต้องหาอะไรทำรอ อาจจะต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน หรือเริ่มทำงานจริงในภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งก็ยังไม่แน่ไม่นอนครับ… เมื่อสิ่งนึงจบลง อีกสิ่งก็คงต้องเริ่ม… จริงมั๊ยครับ ?

ตอนนี้ก็ทำตัวสบายๆ ทำใจให้สงบๆ ทุ่มเทเวลากับการเตรียมตัวสอบ CFA
เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เรายังแก้ไขมันได้ครับ…
.

ความคืบหน้าการเตรียมตัวสอบ CFA

สำหรับตอนนี้ ผมอ่านเนื้อหาของ CFA ครบหมดแล้ว และทำโจทย์ไปได้ประมาณ 500 ข้อ (เองครับ)
500 ข้อนี้ต้องถือว่าน้อย เพราะข้อสอบ CFA มีทั้งหมด 240 ข้อ เท่ากับว่า ผมเพิ่งมีประสบการณ์
ในการทำโจทย์เพียงแค่ 2 เท่า ของข้อสอบจริงเท่านั้น เวลาช่วงนี้จนถึงวันสอบ คงจะเป็นการตลุยโจทย์ไปเรื่อยๆ
เพื่อสะสมให้เราแก่กล้าขึ้นครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวอยู่เหมือนกัน ก็อย่าชะล่าใจนะครับ
ผมเชื่อว่า ทำโจทย์เยอะๆ ช่วยเพิ่มความแน่นอนในการจะสอบผ่านได้มากๆ
ที่สำคัญคือ พยายามมาร์คข้อที่เราทำผิดเอาไว้ และกลับไป review จะดีมากครับ
เพราะเรา review หนึ่งครั้ง ก็เท่ากับเราปิดรอยรั่ว ที่เราเคยผิดพลาดได้ 1 จุด
ประเด็นเนื้อหาใน CFA นี้ เป็นเรื่องของความเข้าใจ ถ้าเราปิดรอยรั่วของเราได้ 1 จุด
ก็แสดงว่าเราเพิ่มความเข้าใจได้ 1 จุด ถ้าเราเจอคำถามแนวนี้อีก โอกาสน้อยมากครับ ที่เราจะทำผิดอีก